คำถามที่พบบ่อย | ปันปั่น


ตอบ : ผู้เช่าสามารถคืนจักรยานที่สถานีใดก็ได้ รวมทั้งสถานีเดิม และหากส่งคืนในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ก็ไม่มีค่าบริการ
ตอบ : โทรแจ้งเจ้าหน้าที่โครงการ เพื่อบอกตำแหน่งที่จะให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บจักรยาน เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปเก็บจักรยานกลับไปจอดที่สถานีให้ ทั้งนี้ นอกเหนือจากสมาชิกจะต้องถูกหักเครดิตตามจำนวนชั่วโมงการงานแล้ว สมาชิกจะถูกหักเครดิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 10 เครดิต
ตอบ : ให้ติดต่อ Call Center เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องของระบบก่อน ซึ่งหากแก้ไขไม่ได้  ทาง Call Center จะให้คำแนะนำว่า สถานีที่ใกล้ที่สุดสถานีใดยังมีที่จอดว่างอยู่ให้นำรถจักรยานไปจอดได้  ซึ่งหากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์จะนำรถจักรยานไปจอดยังสถานีอื่น ก็ประสานกับ Call Center ให้จัดส่งหน่วยรถของโครงการฯ มารับคืนรถ ณ สถานีนั้น โดยทางระบบจะไม่คิดค่าบริการจากระยะเวลาที่รอส่งคืนนี้
ตอบ : ไม่ว่าสมาชิกจะพบเหตุขัดข้องใด ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับโครงการจักรยานสาธารณะปันปั่น ขอให้สมาชิกแจ้งเหตุนั้นกับ Call Center ทันที หลังจาก Call Center ได้รับแจ้งเหตุขัดข้องนั้นแล้ว จะรายงานให้ศูนย์ควบคุมกลางรับทราบเพื่อสั่งการแก้ไขเหตุขัดข้องนั้น ๆ โดยเร็ว
ตอบ : หากสมาชิกนำจักรยานออกจากระบบแล้วนำไปจอดไว้ และต่อมาพบว่า จักรยานคันนั้นหายไป กรณีเช่นนี้ถือว่า อยู่ในความรับผิดชอบของสมาชิกผู้นั้นที่จะต้องติดตามนำจักรยานคืน หรือชดใช้ค่าสูญหายของจักรยานคันนั้น อย่างไรก็ดี มีคำแนะนำสำหรับสมาชิกที่ทำจักรยานหายระหว่างใช้บริการว่า ให้รีบแจ้งต่อ Call Center เพื่อตรวจสอบในเบื้องต้นก่อนว่า จักรยานคันดังกล่าวได้ถูกนำส่งเข้าระบบโดยตัวสมาชิกเองไม่ทราบ  เช่น มีพลเมืองดีพบรถจักรยานจอดทิ้งไว้แล้วโทรแจ้ง Call Center หรือ กรณีเจ้าหน้าที่สายตรวจของโครงการฯ ตรวจพบจักรยานจอดทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแล จึงนำกลับกลับคืนเข้าสู่ระบบ เป็นต้น หากเป็นเช่นนี้สมาชิกก็ไม่ต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าสูญหายของจักรยาน แต่อาจต้องถูกเรียกเก็บค่าปรับเนื่องจากการคืนจักรยานไม่สมบูรณ์ตามข้อกำหนด
ตอบ : ในกรณีปกติ บัตรสมาชิกจักรยานสาธารณะปันปั่น (บัตรสมาร์ทการ์ด) ทุกใบ จะมีอายุใช้งาน 1 ปี นับแต่วันที่ออกบัตร สมาชิกจึงต้องนำบัตรไปต่ออายุเมื่อบัตรครบกำหนด 1 ปีแล้ว จึงจะสามารถใช้บริการต่อไปได้
ตอบ : เนื่องจากสมาชิกผู้ใช้บริการจักรยานสาธารณะปันปั่นทุกคนที่ลงทะเบียนสมัครใช้บริการ จะได้รับการคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลในวงเงินที่กำหนด โดยบริษัทประกันภัยของโครงการ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การแจ้งอุบัติเหตุนั้นแก่บริษัทประกันภัยโดยตรง ซึ่งบริษัทประกันภัยก็จะให้คำแนะนำและช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของการประกันภัยต่อไป
ตอบ : คุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งในการสมัครใช้บริการจักรยานสาธารณะปันปั่น คือ ผู้สมัครต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่สมัครใช้บริการ ดังนั้น การเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาจึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์เป็นสำคัญ
ตอบ : ทันทีที่สมาชิกทราบ หรือสงสัยว่าบัตรสมาร์การด์หาย ต้องรีบแจ้ง Call Center เพื่อให้ระบบทำการอายัดการใช้งานของบัตรใบนั้นทันที มิฉะนั้นหากมีจักรยานหายไปโดยระบบบันทึกว่า เกิดจากการใช้บัตรใบที่หายไป สมาชิกผู้ถือบัตรใบนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อการสูญหายของรถจักรยานเสมือนหนึ่ง เป็นผู้ทำจักรยานหาย หลังจากสมาชิกได้แจ้งบัตรหายต่อ Call Center แล้ว บัตรใบนั้นก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป โครงการฯ จะทำการออกบัตรใหม่ให้โดยสมาชิกต้องชำระค่าทำบัตรใหม่ตามที่กำหนด ส่วนยอดเงินในบัตรที่เหลืออยู่จะถูกโอนไปสู่บัตรใหม่ทันที
ตอบ : ในกรณีเช่นนี้ แนะนำให้ติดต่อ Call Center เพื่อขอคำแนะนำว่า สถานีที่ใกล้ที่สุดสถานีใดยังมีที่จอดว่างอยู่ ซึ่งหากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์จะนำรถจักรยานไปจอดยังสถานีที่อื่น ก็อาจรอให้มีผู้ใช้บริการท่านอื่นมาใช้บริการและมีช่องว่างเกิดขึ้น  หรือ รอจนกว่ารถบริการของโครงการฯ จะมารับคืนรถ ณ สถานีนั้น โดยทางระบบจะไม่คิดค่าบริการจากระยะเวลาที่รอส่งคืนนี้
ตอบ : ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายของรถจักรยาน เมื่อได้นำรถจักรยานส่งคืนเข้าระบบโดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว นั่นก็คือ จักรยานได้ถูกนำเข้าไปเสียบเข้าแท่นล็อค ณ สถานีจอดรถจักรยาน และระบบล็อคได้ทำการล็อครถจักรยานพร้อมกับแสดงสัญญาณไฟกระพริบยืนยันการล็อคแล้ว
ตอบ : โครงการฯ ไม่สนับสนุนให้ผู้ใช้บริการจักรยานสาธารณะปันปั่น นำบัตรของตนไปให้ผู้อื่นใช้ เนื่องจากการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลให้ผู้ใช้บริการ คุ้มครองเฉพาะเจ้าของบัตรตามที่ลงทะเบียนไว้กับโครงการฯ เท่านั้น หากผู้อื่นนำไปใช้และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากการประกันนี้  นอกจากนี้ หากผู้อื่นนำไปใช้แล้วเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้นกับรถจักรยาน เจ้าของบัตรก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายนั้น